Accounting Information Systemsand Business Processes: Part I
ที่มา :www.google.com/search?tbm=isch&sxsrf
ระบบสารสนเทศทางการบัญชี
ระบบสารสนเทศด้านการบัญชี คือ ระบบที่ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อแปลงหรือประมวลผลข้อมูล
ระบบสารสนเทศด้านการบัญชี คือ ระบบที่ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อแปลงหรือประมวลผลข้อมูล
ทางการเงิน
( Financial
data ) ให้เป็นสารสนเทศที่มีประโยชน์ในการตัดสินใจต่อผู้ใช้
ระบบสารสนเทศด้านการบัญชี (accounting information systems) หรือที่เรียกว่า AIS จะเป็นระบบที่รวบรวม จัดระบบ และนำเสนอสารสนเทศทางการบัญชีที่ช่วยในการตัดสินใจแก่ผู้ใช้สารสนเทศทั้งภายในและภายนอกองค์การ โดยระบบสารสนเทศทางการบัญชีจะให้ความสำคัญกับสารสนเทศที่สามารถวัด ได้ หรือ การประมวลผล เชิงปริมาณมากกว่าการแก้ปัญหาเชิงคุณภาพ โดยระบบสารสนเทศด้านการบัญชีจะมีส่วนประกอบหลัก 2 ส่วนคือ
1.ระบบบัญชีการเงิน (financial accounting system) คือ การจัดทำบัญชีที่อยู่ภายใต้วัฎจักรการบัญชี มีการสร้างระบบประมวลผลข้อมูลทางการบัญชีขั้นพื้นฐานของธุรกิจเริ่มตั้งแต่ การจัดเก็บรวบรวมเอกสารขั้นต้นซึ่งบรรจุรายการเปลี่ยนแปลงทางการค้า ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันมาบันทึกรายการในสมุดขั้นต้นหรือสมุดรายวันและผ่าน รายการบัญชีไปยังสมุดแยก
ระบบสารสนเทศด้านการบัญชี (accounting information systems) หรือที่เรียกว่า AIS จะเป็นระบบที่รวบรวม จัดระบบ และนำเสนอสารสนเทศทางการบัญชีที่ช่วยในการตัดสินใจแก่ผู้ใช้สารสนเทศทั้งภายในและภายนอกองค์การ โดยระบบสารสนเทศทางการบัญชีจะให้ความสำคัญกับสารสนเทศที่สามารถวัด ได้ หรือ การประมวลผล เชิงปริมาณมากกว่าการแก้ปัญหาเชิงคุณภาพ โดยระบบสารสนเทศด้านการบัญชีจะมีส่วนประกอบหลัก 2 ส่วนคือ
1.ระบบบัญชีการเงิน (financial accounting system) คือ การจัดทำบัญชีที่อยู่ภายใต้วัฎจักรการบัญชี มีการสร้างระบบประมวลผลข้อมูลทางการบัญชีขั้นพื้นฐานของธุรกิจเริ่มตั้งแต่ การจัดเก็บรวบรวมเอกสารขั้นต้นซึ่งบรรจุรายการเปลี่ยนแปลงทางการค้า ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันมาบันทึกรายการในสมุดขั้นต้นหรือสมุดรายวันและผ่าน รายการบัญชีไปยังสมุดแยก
2.ระบบบัญชีบริหาร (managerial
accounting system) บัญชีบริหารเป็นการนำเสนอข้อมูลทางการเงินแก่
ผู้บริหาร เพื่อใช้ในการตัดสินใจทางธุรกิจ
โดยมีลักษณะสำคัญ คือ
-ให้ความสำคัญกับการจัดการสารสนเทศทางการบัญชีแก่ผู้ใช้ภายในองค์การ
-ให้ความสำคัญกับการดำเนินงานในอนาคตของธุรกิจ
-ไม่ต้องจัดทำสารสนเทศตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป
-มีข้อมูลทั้งที่เป็นตัวเงินและไม่เป็นตัวเงิน
-มีความยืดหยุ่นและสามารถปรับให้สอดคล้องกับความต้องการใช้งาน
-ให้ความสำคัญกับการจัดการสารสนเทศทางการบัญชีแก่ผู้ใช้ภายในองค์การ
-ให้ความสำคัญกับการดำเนินงานในอนาคตของธุรกิจ
-ไม่ต้องจัดทำสารสนเทศตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป
-มีข้อมูลทั้งที่เป็นตัวเงินและไม่เป็นตัวเงิน
-มีความยืดหยุ่นและสามารถปรับให้สอดคล้องกับความต้องการใช้งาน
กระบวนการทางธุรกิจ
มี
3 ประเภทคือ
1. กิจการให้บริการ (Service Firm) กิจการให้บริการจะมีรายได้หลัก
คือ ค่าธรรมเนียม ค่าบริการรับ รายจ่ายหลัก คือ เงินเดือนพนักงาน
ค่าวัสดุสิ้นเปลือง ค่าเช่า ค่าสาธารณูปโภค และอื่นๆ
2.
กิจการซื้อมาขายไป (Merchandising Firm) หมายถึง
กิจการที่ซื้อขายสินค้าทั้งขายส่ง
และขายปลีกโดยไม่ใช่ผู้ผลิต
รายได้หลักของกิจการ คือ เงินที่ขายสินค้าได้ ค่าใช้จ่าย
จำแนกเป็น 2 ส่วน คือ ต้นทุนสินค้าขาย และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
3.
กิจการผลิต (Manufacturing Firm) กิจการผลิตส่วนใหญ่จะมีโรงงานสำหรับผลิต
สินค้า
รายได้หลัก คือ เงินที่ได้จากการขายสินค้า ค้าใช้จ่าย คือ ต้นทุนในการซื้อ
วัตถุดิบ
ค่าจ้างคนงาน และค่าใช้จ่ายในขบวนการผลิต
ระบบสารสนเทศทางการบัญชี
( Accounting
Information System ) คือ ระบบที่ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อ แปลงหรือประมวลผลข้อมูลทางการเงิน
( Financial data ) ให้เป็นสารสนเทศที่มีประโยชน์ในการตัดสินใจต่อ
ผู้ใช้
ระบบสารสนเทศทางการบัญชี
จะให้ความสำคัญกับการรวบรวมข้อมูลและการติดต่อสื่อสารทางการเงิน ซึ่งเป็น
กระบวนการติดต่อสื่อสารมากกว่าการวัดมูลค่า โดยที่ AIS จะแสดงภาพรวม จัดเก็บ จัดโครงสร้าง
ประมวลข้อมูล ควบคุมความปลอดภัย
และการรายงานสารสนเทศทางการบัญชี ปัจจุบันการดำเนินงานและ การไหลเวียนของข้อมูลทางการบัญชีมีความซับซ้อนมาก
ขึ้น ทำให้นักบัญชีต้องกำหนดคุณสมบัติของสารสนเทศด้านการบัญชีให้สัมพันธ์กับการ
ดำเนินงานขององค์การ ประการสำคัญ AIS และระบบสารสนเทศ เพื่อการจัดการจะมีทั้งส่วนที่แยกออกจากกันและเกี่ยวเนื่อง
สัมพันธ์กัน แต่ MIS จะให้ความสำคัญกับการ จัดการสารสนเทศสำหรับการตัดสินใจของผู้บริหาร
ขณะที่ AIS จะประมวลสารสนเทศเฉพาะสำหรับผู้ใช้งาน ทั้งภายในและภายนอกองค์การ
เช่น นักลงทุน เจ้าหนี้ และผู้บริหาร
กระบวนการจัดซื้อจัดหา
(PURCHASING
PROCESS)
ความหมายและคำจำกัดความที่เกี่ยวข้องของการจัดซื้อจัดหา
คำนิยามของการจัดซื้อ
(Purchasing)
ว่าเป็น กระบวนในการซื้อ โดยศึกษาความต้องการ หาแหล่งซื้อและคัดเลือกผู้ส่งมอบ
เจรจาต่อรองราคา และกำหนดเงื่อนไขให้ตรงกับความต้องการ
รวมไปถึงติดตามการจัดส่งสินค้าเพื่อให้ได้รับสินค้าตรงเวลา
และติดตามการชำระเงินค่าสินค้าด้วย ซึ่งแท้ที่จริงแล้ว การจัดซื้อ (Purchasing)
การจัดการพัสดุ (Supply Management) และการจัดหา
(Procurement) นั้น
ถูกนำมาใช้แทนกันในการจัดหาให้ได้มาซึ่งพัสดุและงานบริการอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลภายในองค์กร
ดังนั้น การจัดซื้อ หรือการ จัดการพัสดุ
ไม่ใช่เป็นเพียงความเกี่ยวเนื่องในขั้นตอนมาตรฐานในกระบวนการจัดหาที่ประกอบด้วย
(1) การรับรู้ความต้องการใช้สินค้า
(2) การแปรความต้องการใช้สินค้านั้นไปเป็นเงื่อนไขสำหรับการจัดหา
(3) การแสวงหาผู้ส่งมอบที่มีศักยภาพเพียงพอกับความต้องการ
(4) การเลือกแหล่งสินค้าที่เหมาะสม
(5) การจัดทำข้อตกลงตามใบสั่งซื้อหรือสัญญาซื้อขาย
(6) การส่งมอบสินค้าหรืองานบริการ
(7) การชำระค่าสินค้าหรือบริการให้กับผู้ส่งมอบ
กิจกรรมทางเศรษฐกิจ
หมายถึงการกระทำต่างๆของมนุษย์เพื่อให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจคือนำมาบำบัดความต้องการของมนุษย์ได้
กิจกรรมทางเศรษฐกิจได้แก่ 1.การผลิต(production) 2.การบริโภค (consumption)
3.การกระจาย (distribution) 4.การแลกเปลี่ยน (exchange)
1.การผลิต
(production)
หมายถึง การสร้างเศรษฐทรัพย์ขึ้นเพื่อบำบัดความต้องการของมนุษย์
คำว่า เศรษฐทรัพย์ หมายถึง สิ่งของ หรือบริการที่เป็นประโยชน์
สามารถนำมาบำบัดความต้องการของมนุษย์ได้ เช่น อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย
ยารักษาโรค กระแสไฟฟ้าหรือพลังงาน และบริการต่างๆ เช่นการสอนหนังสือ การตัดผม
การร้องเพลงหรือเล่นดนตรีบนเวทีการแสดง เป็นต้น
แต่ถ้าเป็นสิ่งของที่มีอยู่มากมายโดยไม่ต้องซื้อหา เช่นน้ำ ในแม่น้ำ
อากาศที่เราหายใจ เราเรียกว่า ทรัพย์เสรี ไม่ถือว่าเป็นเศรษฐทรัพย์
2.การบริโภค
(consumption)
หมายถึง
การกินหรือการใช้สินค้าหรือบริการเพื่อสนองความต้องการของมนุษย์โดยตรง
เช่นการรับประทานอาหาร การใช้บริการช่างตัดผม บริการของแพทย์
การใช้บริการรถประจำทาง เป็นต้น
3.การกระจาย(Distribution) หมายถึง การจำหน่ายจ่ายแจกสินค้า
หรือบริการที่ผลิตขึ้นมาไปยังผู้บริโภค
และรวมถึงการนำรายได้จากการจำหน่ายจ่ายแจกสินค้าหรือบริการนั้นๆ
มาแบ่งสรรปันส่วนให้แก่เจ้าของปัจจัยการผลิตที่มีส่วนร่วมการผลิต
4.การแลกเปลี่ยน
(Exchange) หมายถึงการเปลี่ยนความเป็นเจ้าของของสินค้าหรือบริการระหว่างกัน
ปัจจุบันเราจะสังเกตเห็นว่าชาวนาชาวไร่ไม่ได้ปลูกข้าวหรือเลี้ยงสัตว์เพื่อบริโภคในครัวเรือนเท่านั้น
แต่จะทำการผลิตเป็นจำนวนมากเพื่อนำไปใช้ซื้อขายแลกเปลี่ยนเอาสินค้าอื่นมาบำบัดความต้องการของตนด้วย
จึงเกิดการแลกเปลี่ยนซึ่งเป็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจขึ้น
ที่มา 1. http ://kaiindy.blogspot.com
2. https://sites.google.com
3. https://bellectk.wordpress.com
4. http://importbytop.blogspot.com/2016/09/purchasing-process.html
5. https://www.nectec.or.th/schoolnet/library/create-web/10000/sociology/10000-5602.html
เขียนโดย 1.นายธันญารัตน์ ทองน้อย
2.นางสาวนภัสวรรณ ประสารศรี
2.นางสาวนภัสวรรณ ประสารศรี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น